บริการออกแบบระบบผลิตน้ำในโรงงานอุตสาหกรรม สู่มาตรฐานการผลิต
การผลิตเบียร์
การผลิตเบียร์ เป็นศิลปะโบราณที่ได้รับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนมาหลายพันปี จนก่อให้เกิดเบียร์หลากหลายชนิดที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน แต่รู้ไหมว่าหัวใจสำคัญของกระบวนการผลิตเบียร์คือ ลำดับการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับข้าวบาร์เลย์และยีสต์ระหว่างการหมักแบบไม่ใช้อากาศ
ในกระบวนการผลิตเบียร์ส่วนใหญ่ จะใช้วัตถุดิบหลักที่จำเป็นเหมือนกันเกือบทั้งสิ้น ซึ่งได้แก่ ข้าวบาร์เลย์, ยีสต์, ฮอปส์ และน้ำ แต่สิ่งที่ทำให้เรามีเบียร์หลากหลายชนิดให้เลือกดื่ม คือการปรับเปลี่ยนส่วนผสมหลักอย่างพิถีพิถัน รวมถึงสูตรการผลิตที่แตกต่างกันนั่นเอง
ถึงในปัจจุบันจะมีเบียร์หลากหลายชนิด แต่ล้วนก็มีความคล้ายคลึงกันในขั้นตอนการผลิต เพื่อควบคุมกระบวนการตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นระหว่างการหมัก และนำมาซึ่งเบียร์ที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ขั้นตอนการผลิตเบียร์ โดยทั่วไปสามารถแบ่งเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้::
- การหมัก : ขั้นตอนที่ยีสต์เปลี่ยนน้ำตาลในข้าวบาร์เลย์ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- การตกตะกอน : ขั้นตอนที่กำจัดยีสต์ ตะกอน และสิ่งไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ออกจากเบียร์
- การคงสภาพ : ขั้นตอนที่ทำให้เบียร์คงสภาพ ป้องกันการเกิดตะกอน ความขุ่น และการเปลี่ยนแปลงรสชาติ
- การบรรจุ : ขั้นตอนสุดท้าย คือการบรรจุเบียร์ลงในภาชนะที่เหมาะสม
แต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตเบียร์ มักจะต้องใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเฉพาะทาง รวมถึงการออกแบบระบบน้ำ ในโรงงานผลิตอย่างเหมาะสม เพราะถึงแม้ว่าจะมีตัวเลือกและความยืดหยุ่นมากมาย แต่ก็ไม่มีวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างสากล การเลือกว่าจะใช้วิธีการใดในแต่ละขั้นตอน โดยทั่วไปแล้วจะขึ้นอยู่ว่าอุปกรณ์นั้น ๆ มีประสิทธฺิภาพที่เสถียรดีหรือไม่ เมื่อเทียบกับต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่คุ้มค่ากับการลงทุนนั่นเอง
เทคนิคการกรองแบบ Normal Flow Filtration กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับอุตสาหกรรมเบียร์ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานเบียร์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ระดับโลกต่างก็ตระหนักถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
Parker Bioscience Filtration จึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอระบบกรองที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการผลิตเบียร์ทั่วโลก โดยการผสมผสานความรู้เฉพาะทางด้านการผลิตเบียร์ เข้ากับผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม ซึ่งสิ่งที่เราจะมอบให้ คือ
- บริการออกแบบระบบผลิตน้ำ ระบบกรองของเหลว ในอุตสาหกรรม ที่มีคุณภาพระดับโลก
- ประสิทธิภาพการกรองที่สม่ำเสมอ คิดค้นขึ้นสำหรับการใช้งานด้านการผลิตเบียร์โดยเฉพาะ
- ความมุ่งมั่นในการลดของเสียและพลังงานตลอดกระบวนการผลิตเบียร์
- การปรับปรุงประสิทธิภาพระบบกรองของเหลวโดยใช้เทคนิคเฉพาะทางมาสนับสนุน
เอกสารนี้จะเน้นที่การคงสภาพเบียร์หลังการหมัก และมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำตัวกรองที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการใช้งานเฉพาะเจาะจงภายในโรงเบียร์ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากระบบกรองของเหลวของ Parker ได้สูงสุด และผลิตเบียร์ที่สมบูรณ์แบบให้ทุกคนได้ดื่มด่ำอย่างต่อเนื่อง
ปกป้องคุณภาพเบียร์ของคุณด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด…
เทคโนโลยีการผลิตเบียร์โดยเฉพาะจาก Parker
- การคงสภาพเย็น : ช่วยป้องกันการเกิดตะกอนในเบียร์
- การปรับสภาพเบื้องต้น : ช่วยลดปริมาณของสารที่ก่อให้เกิดตะกอน
- การกรองแบบดัก : ช่วยกำจัดยีสต์และสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ออกจากเบียร์ก่อนบรรจุขวดหรือกระป๋อง
- การฆ่าเชื้อก๊าซ : ช่วยกำจัดจุลินทรีย์ในก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ในการผลิตเบียร์
- ระบบกรองของเหลว : ช่วยกรองสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำที่ใช้ในการผลิตเบียร์
- ระบบกรองก๊าซ : ช่วยกรองสิ่งปนเปื้อนออกจากก๊าซที่ใช้ในการผลิตเบียร์
- ระบบควบคุมอัตโนมัติ : ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ควบคุมกระบวนการผลิตเบียร์แบบอัตโนมัติ
การคงสภาพเย็น
มารู้จักกระบวนการคงสภาพเย็น
การคงสภาพเย็น หมายถึงการกรองเบียร์เพื่อกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ก่อนการบรรจุภัณฑ์
จุลินทรีย์จำเป็นต้องถูกกำจัดออกจากเบียร์ เพื่อป้องกันการเน่าเสีย โดยทั่วไปแล้วจุลินทรีย์เหล่านี้ ได้แก่ ยีสต์ แบคทีเรียกรดอะซิติก และแบคทีเรียกรดแลคติก
ระดับการกรองจะขึ้นอยู่กับอายุการเก็บรักษา โดยทั่วไปสำหรับโรงเบียร์ขนาดใหญ่ อายุการเก็บรักษาอยู่ที่ 12 เดือน ซึ่งเบียร์ที่บรรจุขวดหรือกระป๋องแล้ว จะต้องไม่มียีสต์หรือแบคทีเรีย จึงจะถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่ยอมรับ
ก่อนหน้านี้ วิธีการทำให้เบียร์คงสภาพทางจุลินทรีย์ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นคือ การพาสเจอร์ไรส์ ซึ่งเป็นแบบอุโมงค์ (ที่อุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที) หรือแบบแฟลช (ที่อุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียสต่อวินาที) ซึ่งทั้งสองรูปแบบของการพาสเจอร์ไรส์ ล้วนส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตเบียร์ ดังต่อไปนี้
ข้อเสียของการพาสเจอร์ไรส์
- ไม่สามารถกำจัดสปอร์ที่ทนความร้อนได้
- อาจทำให้เบียร์ออกซิเดชัน ส่งผลกระทบต่อรสชาติอย่างมาก
- ใช้พลังงานสูงมาก
- ต้องใช้น้ำจำนวนมาก
ข้อดีของการคงสภาพเย็น
- กำจัดเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมด
- ประสิทธิภาพในการกรองของระบบกรองของเหลวสามารถตรวจสอบได้โดยการทดสอบก่อนใช้งาน
- ส่งผลกระทบต่อรสชาติ หรือลักษณะของเบียร์น้อยที่สุด
- ลดความต้องการน้ำหรือพลังงานลงอย่างมาก
- ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา
ผู้ผลิตเบียร์หันมาใช้การคงสภาพเย็น เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์จะมีอายุการเก็บรักษานาน ซึ่งการเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องใช้พลังงานและน้ำจำนวนมากในการพาสเจอร์ไรส์ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีเมมเบรน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวกรองได้นานขึ้น
บริษัท Parker ได้ผลิตตัวกรอง BEVPOR ที่ได้รับรองมาตรฐานด้านการกักเก็บจุลินทรีย์ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำความสะอาดภายในตัวกรองได้บ่อยครั้ง เพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้
การปรับสภาพเบื้องต้น
มารู้จักกระบวนการปรับสภาพเบื้องต้น
การปรับสภาพเบื้องต้น หมายถึง การกรองเบียร์ใส ซึ่งผ่านกระบวนการตกตะกอนมาแล้ว เพื่อลดปริมาณจุลินทรีย์และความขุ่นก่อนนำไปดำเนินการต่อหรือเก็บรักษา
ในโรงเบียร์ขนาดใหญ่ ความสามารถในการเก็บเบียร์ให้อยู่ในสภาพคงตัวก่อนบรรจุ จะส่งผลดีต่อการบรรจุ ดังนั้น การกรองเบียร์ก่อนเก็บรักษา จะช่วยลดปริมาณจุลินทรีย์ และช่วยปกป้องคุณภาพของเบียร์ระหว่างการเก็บรักษา ซึ่งช่วยให้ระยะเวลาในการบรรจุมีความยืดหยุ่น และช่วยให้ระบบการบรรจุมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บริษัท Parker ได้ผลิตตัวกรอง PREPOR ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบกรองของเหลวแบบปรับสภาพเบื้องต้น โดยไส้กรองเหล่านี้จะช่วยลดปริมาณจุลินทรีย์ในเบียร์ ขณะเดียวกันการตกตะกอนที่จะส่งผลให้เบียร์ขุ่น และช่วยปกป้องระบบเมมเบรนปลายทางอีกด้วย
การกรองแบบดัก
มารู้จักกระบวนการกรองแบบดัก
หลังจากการหมักเบียร์ที่ยังไม่ผ่านการกรอง จะมีตะกอนแขวนลอยจำนวนมาก เช่น สาโท (สารละลายน้ำตาลที่ได้จากการมอลต์ข้าวบาร์เลย์) เซลล์ยีสต์ ไขมัน และโปรตีน ซึ่งตะกอนเหล่านี้จะตกตะกอนที่ก้นถังหมัก และบางส่วนจะกลายเป็นกากตะกอนที่ส่งผลให้เบียร์ดูขุ่นและจะเสียคุณภาพไป หากไม่มีการกรองออก ดังนั้น เพื่อผลิตเบียร์ที่ใส น่าดื่ม และมีอายุการเก็บรักษาหลังบรรจุภัณฑ์ที่ยาวนาน เบียร์จะต้องผ่านระบบกรองของเหลว เพื่อการกรองตะกอนและคงสภาพเสียก่อน
ขั้นตอนแรกของกระบวนการนี้คือ การแยกกากตะกอนแข็งออกจากเบียร์ มีเทคนิคต่าง ๆ ที่นิยมใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นการปั่นเหวี่ยง การทำให้คงสภาพทางกายภาพโดยการเติมสาร เช่น PVPP และ Isinglass การกรองแบบไหลขวาง หรือการกรองแบบผงโดยใช้ดินเบา ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ไม่สามารถกรองแยกได้อย่างสมบูรณ์ และยังคงมีอนุภาคแข็งบางส่วนหลงเหลืออยู่ในเบียร์ จึงจำเป็นต้องผ่านการกรองอีกครั้ง
ระบบกรองของเหลวแบบดัก ได้รับการออกแบบมาเพื่อดักจับอนุภาคแข็ง ที่หลุดรอดไปจากขั้นตอนการแยกเบื้องต้นหลังการหมัก วัตถุประสงค์ของขั้นตอนการกรองนี้คือ เพื่อให้ได้เบียร์ที่ผ่านการกรองอนุภาคในระดับที่คงที่ และส่งต่อเบียร์คุณภาพระดับหนึ่งไปเก็บรักษาต่อ
การส่งต่อเบียร์คุณภาพคงที่ในขั้นตอนนี้ของกระบวนการผลิต จะช่วยให้แน่ใจว่าระบบปลายทาง ที่ใช้สำหรับการคงสภาพทางจุลินทรีย์ จะสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ฟิลเตอร์ PEPLYN HA ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อดักจับอนุภาคแข็ง ซึ่งจะหลุดออกมาจากขั้นตอนการกรอง โดยเนื้อที่ของตัวกรองขนาดใหญ่จะช่วยให้เบียร์ไหลผ่านได้เร็ว ขณะเดียวกันก็กรองแยกอนุภาคแข็งได้อย่างหมดจด ด้วยโครงสร้างของฟิลเตอร์ HA ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถล้างย้อนกลับได้หลายครั้ง เพื่อทำความสะอาดฟิลเตอร์ให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วน PEPLYN HD เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับกรณีที่ไม่ต้องการล้างย้อนกลับ โครงสร้างของฟิลเตอร์ HD ยังคงสามารถกรองแยกอนุภาคแข็งได้อย่างหมดจด และได้รับการออกแบบให้ทนต่อการอุดตัน ภายใต้สภาวะปริมาณอนุภาคแปรปรวน ตามที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน
การฆ่าเชื้อก๊าซ
มารู้จักกระบวนการฆ่าเชื้อก๊าซ
ก๊าซอัดที่สัมผัสโดยตรงกับส่วนผสม ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป วัสดุบรรจุภัณฑ์ ภาชนะเก็บรักษา หรือเครื่องจักรในกระบวนการผลิต จำเป็นต้องผ่านการกรองฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นกับเบียร์
ตัวกรองก๊าซเพื่อฆ่าเชื้อ เป็นจุดควบคุมที่สำคัญ เพื่อให้การบรรจุมีความปลอดเชื้อ ซึ่งการฆ่าเชื้อจะใช้ไอน้ำ โดยจะมีการทดสอบความสมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการยืนยันประสิทธิภาพในการกักเก็บเชื้อจุลินทรีย์ของตัวกรอง และการควบคุมคุณภาพในกระบวนการบรรจุผลิตภัณฑ์
สำหรับการบรรจุแบบปลอดเชื้อ จำเป็นต้องมีการรักษาเครื่องจักรและบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ขวดและฝา ไม่ให้มีการปนเปื้อน ซึ่งในกรณีที่ใช้การพาสเจอร์ไรส์แบบแฟลช หรือการคงสภาพเย็น เครื่องบรรจุจะต้องใช้ตัวกรองก๊าซฆ่าเชื้ออย่างน้อยหนึ่งตัว เพื่อกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ออกจากไนโตรเจนหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ASEPT-X ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการบรรจุแบบปลอดเชื้อ ในกรณีที่ระบบไอน้ำและอุปกรณ์อบไอน้ำไม่เหมาะสำหรับการกำจัดสิ่งปนเปื้อนจำนวนมาก และสามารถทนต่อการฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำได้ อีกทั้งยังมีบริการจัดหาก๊าซฆ่าเชื้อ ที่จำเป็นสำหรับการบรรจุแบบปลอดเชื้ออีกด้วย
ระบบกรองน้ำ
มารู้จักระบบกรองน้ำ
ระบบกรองก๊าซ
มารู้จักกระบวนการระบบกรองก๊าซ
โซลูชันการกรองแบบปลอดเชื้ออัตโนมัติของเรา
โมเดลการคงสภาพเย็น (CSM)
สำหรับผู้ผลิตเบียร์ที่กำลังมองหาบริการออกแบบระบบผลิตน้ำในอุตสาหกรรม รวมถึงระบบกรองน้ำเค็ม หรือระบบกรองน้ำทะเล ที่สามารถติดตั้งเข้ากับโรงงานได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยากในการบูรณาการเข้ากับระบบที่มีอยู่เดิม บริษัท Parker และ Agidens Process Automation ขอนำเสนอโซลูชันระบบกรองของเหลวประสิทธิภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตเบียร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่มีลักษณะเฉพาะอย่างไร หรือใช้ระบบซอฟต์แวร์อะไร เราก็สามารถจัดส่งระบบกรองของเหลวแบบบูรณาการ ที่มีความยืดหยุ่นและตรงตามมาตรฐานสูงสุด
ทั้งนี้ เรามีระบบ CSM เป็นระบบกรองฆ่าเชื้อแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ รองรับการทำงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับระบบ CIP อัตโนมัติ รวมถึงบริการทดสอบความสมบูรณ์แบบบูรณาการ ซึ่งช่วยรับประกันการควบคุมเชื้อจุลินทรีย์ที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับโรงเบียร์ทุกขนาดการผลิต